Considerations To Know About เศรษฐกิจเวียดนาม
Considerations To Know About เศรษฐกิจเวียดนาม
Blog Article
ภาพรวมเวียดนาม ข้อมูลรายจังหวัด/นคร
ผู้ส่งออกรายหนึ่งกล่าวว่าลูกค้าองค์กรกำลังหลีกเลี่ยงธนาคาร “เจ้าของธุรกิจและพ่อค้าไม่ฝากเงินในธนาคารอีกต่อไป … ส่วนใหญ่ … เลือกที่จะเก็บเงินไว้ที่บ้าน”
โดยข้อหลังนั้นผู้บริหารชาวเยอรมันรายนี้มองว่า “การเติบโตต้องเป็นไปอย่างยั่งยืน” และเวียดนามยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมายเมื่อพูดถึงการเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะยังมีการใช้พลังงานฟอสซิลอยู่มาก รวมไปถึงความท้าทายในตลาดผู้บริโภคกับการบริโภคที่ยั่งยืนด้วย
กระแสนิยมปลูกทุเรียนในเวียดนาม ทำให้กาแฟในตลาดโลกแพงขึ้นเพราะเหตุใด
ทางเหนือของเวียดนามนั้นติดกับประเทศจีน อีกทั้งยังใกล้กับเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดถือเป็นประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชีย และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเวียดนามติดกับทะเลเปิด เกื้อหนุนการขนส่งเดินเรือ รวมถึงการสร้างท่าเรือน้ำลึก
นายทรัมป์ถูกลอบสังหารครั้งที่สอง ความรุนแรงทางการเมืองในอเมริกาเป็นเรื่องปกติหรือไม่?
เมื่อใดที่การเมืองกับตำรวจตัดไม่ขาด เมื่อนั้นแรงจูงใจในการพัฒนาองค์กรอาจไม่มากเท่าการวิ่งเต้นตำแหน่ง
นักวิชาการรายนี้อธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อเปรียบเทียบอุตสาหกรรมที่ลงทุนในไทยและเวียดนามจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน กล่าวคือ อุตสาหกรรมในไทยที่มีการลงทุนมาอย่างยาวนานและอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งใช้ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านนานพอสมควร แต่สำหรับกรณีเวียดนามที่การลงทุนเพิ่มเข้ามา เป็นการตัดตอนมายังการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่เลยทำให้สามารถเดินหน้าได้รวดเร็วกว่า
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเวียดนาม ผู้ประกอบการเวียดนามในประเทศต้องปรับตัวอย่างมาก แต่เวียดนามมองว่าระยะยาวจะช่วยยกระดับมาตรฐานการทำดำเนินธุรกิจของเวียดนามได้
เวียดนามกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตแทนที่จีน นอกเหนือจากภาคการผลิตชั้นนำเช่นสิ่งทอและเสื้อผ้าแล้วการผลิตของเวียดนามยังมีทิศทางที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น
เราจำเป็นต้องฆ่าสุนัขและแมวเพื่อควบคุมสัตว์จรจัด รวมถึงโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ?
ส่องอิทธิพล "ชุดผ้าไทย" ผ่านพระราชกรณียกิจต่างแดนของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงจากยุคสยามสู่ปัจจุบัน
ทว่าชาวสวนกาแฟในเวียดนามก็กลับเผชิญกับภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคในรอบเกือบสิบปี
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญมาก เพราะภาคการผลิตที่มาลงทุนในเวียดนามต้องการความมั่นใจว่า พวกเขาจะได้รับสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเหล่านี้ ที่ประเทศอื่นๆ “ไม่มี”และในปีที่แล้วเวียดนามยังเป็นเพียงประเทศเดียวที่สามารถเปิดบ้านต้อนรับการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้